
เปิดตำนาน พระสมเด็จวัดระฆัง สุดยอดพระเครื่องอันดับ 1
พระสมเด็จวัดระฆัง ถือเป็นสุดยอดพระเครื่องอันดับ 1 ของไทยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นจักรพรรดิแห่งพระเครื่อง ด้วยคุณค่าทางพุทธศิลป์ พุทธคุณ และประวัติศาสตร์อันล้ำลึก พระรุ่นนี้สร้างโดยสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม
ในรัชกาลที่ 4 – 5 โดยมีเจตนาสร้างเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้มีศรัทธาให้มีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ส่งผลให้ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์โบราณยุคต้น มีพุทธคุณครบถ้วน ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพัน และเป็นที่เคารพศรัทธามากที่สุดในวงการพระเครื่องไทย
ด้วยจำนวนการสร้างที่น้อย เนื้อผงที่มีความละเอียดอ่อนและส่วนผสมอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้พระสมเด็จวัดระฆังกลายเป็น พระเครื่อง ที่มีมูลค่าสูงและหายากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง หรือพิมพ์เกศบัวตูม
ต่างก็มีผู้แสวงหาครอบครองตลอดเวลาและได้รับการการันตีจากนักสะสมว่าเป็นพระเครื่องที่ทรงคุณค่าทั้งด้านวัตถุมงคลและพลังศรัทธาเหนือกาลเวลา จึงไม่แปลกใจที่พระสมเด็จวัดระฆัง พระกำแพงซุ้มกอ จะครองตำแหน่งพระเครื่องอันดับ 1 ของไทยอย่างไร้ข้อกังขา
ความแตกต่างระหว่างพระ สมเด็จวัดระฆัง ยุคต้น ยุคกลาง และยุคปลาย
สมเด็จวัดระฆัง มิได้ถูกสร้างขึ้นเพียงครั้งเดียวแต่มีการสร้างในหลายวาระและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งนักสะสมพระเครื่องได้แบ่งออกเป็น พระสมเด็จวัดระฆังแท้ยุคต้น ยุคกลาง และยุคปลาย แต่ละยุคสมัยนั้นมีความแตกต่างกันในด้านเนื้อหามวลสาร พิมพ์ทรง และลักษณะทางศิลปะอย่างชัดเจน
การทำความเข้าใจถึงความแตกต่างเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจศึกษา สะสม หรือบูชาพระสมเด็จวัดระฆัง เพื่อให้สามารถแยกแยะและประเมินคุณค่าของพระได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณเห็นถึงวิวัฒนาการและความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ความแตกต่างที่สำคัญของ สมเด็จวัดระฆังทุกพิมพ์ แต่ละยุค
- ยุคต้น (ประมาณ พ.ศ. 2382 – 2400) เป็นช่วงเวลาที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เริ่มสร้างพระสมเด็จ เนื้อหามวลสารในยุคนี้มักมีความแกร่ง แห้ง และมีสีขาวอมเหลือง เนื่องจากมีส่วนผสมของปูนขาวและผงพุทธคุณเป็นหลัก พิมพ์ทรงในยุคต้นยังไม่ค่อยมีรูปแบบที่ตายตัว นักสะสมมักเรียกว่าพิมพ์ครูหรือพิมพ์ช่างหลวงมักปรากฏ ร่องรอยการลงรักปิดทองแบบหยาบๆ และไม่มีขอบข้างที่ชัดเจน นักสะสมบางท่านเรียกยุคนี้ว่ายุคลงรัก
- ยุคกลาง (ประมาณ พ.ศ. 2400 – 2415) ในยุคนี้ การสร้าง พระสมเด็จของแท้ เริ่มมีความประณีตและเป็นมาตรฐานมากขึ้น เนื้อหามวลสารเริ่มมีความหนึกนุ่มมีสีขาวอมเหลืองถึงขาวอมเทาและเริ่มปรากฏร่องรอยของเม็ดพระธาตุ พิมพ์ทรงเริ่มมีรูปแบบที่ชัดเจนขึ้น เช่น พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์ฐานแซม และพิมพ์ปรกโพธิ์ เริ่มปรากฏขอบข้างที่คมชัดขึ้นและการลงรักปิดทองเริ่มมีความละเอียดมากขึ้น
- ยุคปลาย (ประมาณ พ.ศ. 2415 – 2472) เป็นช่วงหลังจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สิ้นพระชนม์ไปแล้ว มีการสร้างพระสมเด็จโดยลูกศิษย์และผู้ที่เคารพศรัทธา เนื้อหามวลสารในยุคนี้มีความหลากหลายมากขึ้น มักปรากฏเม็ดพระธาตุและมวลสารอื่นๆ อย่างชัดเจน พิมพ์ทรงในยุคปลายมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น มีทั้งพิมพ์ที่ถอดแบบจากยุคกลางและพิมพ์ใหม่ๆ ขอบข้างมีความคมชัดและมีลักษณะที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่างผู้สร้าง การลงรักปิดทองอาจมีหรือไม่มีก็ได้และบางองค์อาจมีการลงชาดร่วมด้วย
พิมพ์นิยมพระสมเด็จวัดระฆัง มีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตารามสุดยอดแห่ง พระเบญจภาคี มิได้มีเพียงพิมพ์ทรงเดียว แต่กลับมีหลากหลายพิมพ์ทรงที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับในวงการนักสะสม ซึ่งแต่ละพิมพ์ทรงนั้นมีเอกลักษณ์และความแตกต่างกันในรายละเอียดของพุทธศิลป์อย่างชัดเจน การทำความเข้าใจถึงพิมพ์นิยมต่างๆ ของ สมเด็จวัดระฆังทุกพิมพ์ ของแท้ และสังเกตความแตกต่างในแต่ละจุดจะช่วยให้ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาและแยกแยะพระแท้จากพระเลียนได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น สุดยอดพิมพ์นิยม สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่มีกี่พิมพ์ และความแตกต่าง
- พิมพ์ใหญ่ ถือเป็นพิมพ์ทรงที่มีความสง่างามและเป็นที่นิยมสูงสุด มีลักษณะเด่นคือ พระพักตร์กลมรี อกผาย ลำพระองค์อวบอ้วน บัวฐานชั้นบนมี 5 กลีบ และบัวฐานชั้นล่างมี 7 กลีบ เส้นซุ้มครอบแก้วมีความโค้งมนสวยงามและมีเส้นผ้าทิพย์ที่ทอดลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ
- พิมพ์ทรงเจดีย์ มีลักษณะเด่นตามชื่อคือ องค์พระประธานประทับนั่งภายในซุ้มเรือนแก้วที่มีลักษณะคล้ายเจดีย์ฐานชั้นบนมี 3 ชั้น และฐานชั้นล่างมี 5 ชั้น พระพักตร์กลมมนและลำพระองค์เพรียวกว่าพิมพ์ใหญ่
- พิมพ์เกศบัวตูม เอกลักษณ์สำคัญคือ พระเศียรมีลักษณะคล้ายดอกบัวตูม ลำพระองค์ตรงและเพรียว บัวฐานชั้นบนมี 2 กลีบและบัวฐานชั้นล่างมี 3 กลีบ เส้นซุ้มครอบแก้วมีความโค้งมน
- พิมพ์ฐานแซม มีลักษณะคล้ายพิมพ์ใหญ่ แต่มีเส้นฐานเขียงหรือเส้นที่ยื่นออกมาจากฐานชั้นล่างทั้งสองข้างอย่างเห็นได้ชัด บัวฐานชั้นบนมี 5 กลีบและบัวฐานชั้นล่างมี 2 ชั้น โดยมีเส้นแซมอยู่ระหว่างกลาง
- พิมพ์ปรกโพธิ์ มีลักษณะเด่นคือ มีใบโพธิ์ล้อมรอบองค์พระประธาน ซึ่งประทับนั่งอยู่บนฐานบัวสองชั้น จำนวนใบโพธิ์และรายละเอียดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละองค์
5 องค์พระสมเด็จวัดระฆังหายากในตำนาน ราคาหลักล้าน
พระสมเด็จวัดระฆังแท้ พิมพ์พิเศษบางองค์ที่หาชมได้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวความสมบูรณ์ขององค์พระและเรื่องราวในตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา ทำให้พระสมเด็จวัดระฆังเหล่านี้มีมูลค่าในการสะสมสูงถึงหลักล้านบาท และเป็นที่ใฝ่ฝันของนักสะสมทั่วประเทศ บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 5 องค์ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ราคาแพงที่สุด และหายากในตำนานที่มีราคาซื้อขายในตลาดพระเครื่องสูงลิ่ว เป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นอมตะของพระสมเด็จวัดระฆัง
- พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ “องค์ครู” องค์พิเศษที่มีความสวยงามสมบูรณ์แบบ เนื้อหามวลสารจัดจ้านและมีตำหนิที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงกว้างว่าเป็นแม่แบบหรือองค์ต้นแบบในการศึกษาทำให้มีราคาสูงเป็นอันดับต้นๆ
- พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ “องค์ลุงพุฒ” ด้วยความสวยงามคมชัด เนื้อหามวลสารที่เป็นเอกลักษณ์และการครอบครองโดยบุคคลสำคัญในอดีต ทำให้เป็นหนึ่งในพระสมเด็จวัดระฆังที่มีราคาสูงที่สุดและหาชมได้ยากยิ่ง
- พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม “องค์เสี่ยหนุ่ม” ผิวพรรณเดิมๆ ไม่ผ่านการสัมผัสมากนักและมีเรื่องราวการซื้อขายในราคาที่สร้างความฮือฮาในวงการ ทำให้กลายเป็นตำนานและเป็นที่หมายปองของนักสะสม
- พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ฐานแซม “องค์เทพ” มีความพิเศษตรงที่เนื้อหามวลสารมีความโดดเด่น มีความคมชัดของเส้นฐานแซม และความสมบูรณ์ขององค์พระที่หาได้ยากยิ่งและมีมูลค่าสูงมาก
- พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ปรกโพธิ์ “องค์พิเศษ” มีจำนวนการสร้างน้อยอยู่แล้วหากเป็นองค์ที่มีความสวยงามสมบูรณ์ ใบโพธิ์เรียงตัวสวยงามและมีเนื้อหามวลสารที่พิเศษแตกต่างจากองค์อื่นๆ เป็นองค์ที่คนในวงการต่างยอมรับว่าของจริงต้องหายาก
ตำหนิพระสมเด็จวัดระฆังที่ควรรู้ จุดสังเกตแท้หรือปลอม
พระสมเด็จวัดระฆัง ถือเป็นพระเครื่องยอดนิยมอันดับหนึ่งที่มีราคาสูงและถูกปลอมแปลงมากที่สุดในวงการพระเครื่อง การสังเกต สมเด็จวัดระฆังมีกี่พิมพ์ ตำหนิแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักสะสมทุกระดับโดยเฉพาะผู้เริ่มต้น เพราะ เนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง ของแท้นั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการสร้างในสมัยโบราณ ทั้งในเรื่องของเนื้อหามวลสาร พิมพ์ทรงและร่องรอยการกดพิมพ์ ซึ่งตำหนิสำคัญเหล่านี้ถือเป็นลายเซ็นที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้โดยง่าย ตำหนิพระสมเด็จวัดระฆังแท้ที่นักสะสมควรรู้
- เส้นศิลป์ในพิมพ์พระ พระแท้จะมีเส้นสายละเอียดคมชัดแต่ไม่แข็งกระด้าง เช่น เส้นซุ้มที่โค้งเว้าสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติและไม่มีรอยเกินที่ดูเหมือนพิมพ์ใหม่
- รอยยุบตัวของเนื้อพระ ลักษณะผิวแบบธรรมชาติมีรอยเล็กๆ คล้ายรอยปูไต่ และการยุบตัวของเนื้อแสดงถึงอายุของพระที่แท้จริง
- เนื้อพระมีความแห้งจัดและฝังมวลสารชัดเจน เช่น ผงพุทธคุณ ผงถ่าน หรือเกสรดอกไม้ ที่ฝังแน่นอยู่ในเนื้อ ซึ่งจะเห็นเป็นจุดหรือเส้นเล็กๆ เมื่อส่องกล้อง
- พิมพ์พระโบราณจะมีรอยหดตัวจากการถอดพิมพ์มือ ไม่เนียนสนิทเหมือนของใหม่ซึ่งแสดงถึงวิธีการสร้างในอดีต
- พระแท้จะมีสัดส่วนที่สมดุล มีน้ำหนักสายตา ไม่เอนเอียงหรือผิดเพี้ยนจากพิมพ์มาตรฐาน แม้จะมีความคลาดเคลื่อนจากการกดพิมพ์มือแต่ยังคงสวยงามโดยรวม