พระปิดตาหลวงปู่ไข่ ตำนานพระเครื่องสายเมตตาที่นักสะสมต่างตามหา

หลวงปู่ไข่ อินฺทสโร แห่งวัดเชิงเลน คือพระเกจิผู้มีบทบาทสำคัญในสายวิชาพระปิดตาแห่งกรุงธนบุรี ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ผู้สืบทอดพุทธาคมสายเมตตาจากวัดหนัง โดยเฉพาะในช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ถึงต้นรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นยุคที่พระเครื่องเริ่มแพร่หลายและถูกใช้อย่างจริงจังในชีวิตประจำวัน

หลวงปู่ไข่วัดเชิงเลน ไม่ได้เป็นเพียงผู้สร้างพระเครื่องตามพิธีกรรมทั่วไป แต่เป็นผู้ออกแบบพุทธลักษณะด้วยตนเองและเลือกวิธีปลุกเสกที่เข้มขลังตามตำราโบราณ ซึ่งส่งผลให้พระปิดตาของท่านไม่เพียงเป็นวัตถุมงคลที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังมีพลังทางจิตวิญญาณที่ลึกซึ้ง จนกลายเป็นที่ยอมรับในหมู่พระเกจิและนักสะสมยุคต่อมาอย่างแท้จริง

ประวัติหลวงปู่ไข่ แบบเจาะลึกจากบันทึกโบราณ

หลวงปู่ไข่ อินฺทสโร เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2390 และเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยจำพรรษาที่วัดเชิงเลน แขวงบางโคล่ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่านมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติกรรมฐานและศึกษาพุทธาคมจากพระเกจิรุ่นก่อน อาทิ พระครูวินัยธร วัดหนัง และหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ซึ่งเป็นสายตรงด้านพระปิดตาในยุคนั้น จุดสำคัญในประวัติที่ควรรู้ 

• หลวงปู่ไข่ เป็นผู้ใฝ่รู้เรื่องพุทธคุณ โดยเน้นวิชาคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม
• มีความสามารถในการออกแบบพิมพ์พระด้วยตนเอง
• ท่านละสังขารเมื่อปี พ.ศ. 2473 แต่ชื่อเสียงยังคงอยู่ตราบจนปัจจุบัน
• คำกล่าวของศิษย์ใกล้ชิดระบุว่าพระที่หลวงปู่เสก ไม่มีองค์ใดไร้พุทธคุณ

จุดเปลี่ยนที่ทำให้ พระปิดตา กลายเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ไข่

ในยุคที่พระเครื่องส่วนใหญ่ยังเน้นด้านคงกระพันและแคล้วคลาด หลวงปู่ไข่กลับหันมาเน้นด้านเมตตามหานิยม ผ่านรูปแบบของ ปิดตาหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลนทุกพิมพ์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากพระสายวัดหนังและสายหลวงปู่เอี่ยม โดยท่านเชื่อว่าการ “ปิดตา” เป็นสัญลักษณ์ของการตัดขาดจากโลภ โกรธ หลง ซึ่งสอดคล้องกับหลักกรรมฐานขั้นสูง เหตุผลที่พระปิดตาหลวงปู่ไข่กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

• พิมพ์พระมีความแตกต่าง เช่น ปิดตาหลวงปู่ไข่หลังยันต์ พิมพ์ชลูด และพิมพ์เม็ดกระดุม
• ใช้วิธีปลุกเสกแบบนั่งวิปัสสนาญาณในอุโบสถปิด
• มีจำนวนสร้างจำกัดเฉพาะบางวาระสำคัญ เช่น สร้างถวายรัชกาลที่ 6
• เชื่อกันว่าหากได้พกติดตัว จะมีแต่คนเมตตาและคุ้มครองจากอันตรายทุกชนิด