
พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ พระเครื่องทรงคุณค่าจาก อาจารย์เทพ สาริกบุตร
พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ หนึ่งในพระเครื่องที่ถูกจัดให้เป็นพระเครื่องที่มีความลีกลับและมีความทรงพุทธานุภาพสูงสุด มีความนิยมอย่างต่อเนื่องจากเหล่านักสะสมทั้งยุคเก่าและใหม่ในสายพุทธาคมของ อาจารย์เทพ สาริกบุตร ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องจากเหล่าศิษยานุศิษย์มากมายว่าเป็นหนึ่งในอาจารย์สายวิทยาคมผู้เรื่องเวทย์ในยุคหลังปี 2500 จนถึงยุคปัจจุบัน
พระกริ่งรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นจากการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ในยุคสมัยของสมเด็จพระนเรศวนมหาราชกับศาสตร์พุทธเวทย์อย่างกลมกลืน มีรูปแบบและวิธีการสร้างอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เป็นที่ระลึกและเคารพบูชาถึงพระนเรศวรที่เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และใช้สำหรับการเป็น พระเครื่อง เครื่องรางของขลังที่จะช่วยคุ้มครองป้องกันภัย และยังเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยมอีกด้วย
ตำนวนการสร้างด้วยใจแรงกล้า พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์
พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ ถูกจัดสร้างขึ้นโดย อาจารย์เทพ สาริกบุตร ในช่วงต้นปี 2530 โดยมีจุดประสงค์อย่างชัดเจนและมั่นคงคือต้องการให้เป็นจุดยึดเหนี่ยวจิตใจและระลึกถึง พระนเรศวรมหาราช ผู้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา และยังคงถือเป็นแบบอย่างแห่งความกล้าหาญ ความอุทิศตน และความรักชาติมาจนถึงปัจจุบันนี้
โดยการจัดสร้างพระกริ่งรุ่นนี้ถือเป็นการผสมผสานศาสตร์แห่งพุทธศิลป์ให้กลมกลืนกันพุทธเวทย์ ให้เข้ากันอย่างลงตัว อีกทั้งยังได้นำสถานที่สำคัญในอดีตเข้ามาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการสร้างนั่นก็คือ พระตำหนักวังจันทร์ ซึ่งก็คือสถานที่ประสูติของสมเด็จพระนเรศวรที่จังหวัดพิษณุโลกนั่นเอง
อาจารย์เทพ สาริกบุตร ได้ตั้งมั่นและดำเนินขั้นตอนการจัดสร้างพระกริ่งรุ่นนี้ให้เต็มไปด้วยความมีสติ เข้มขลังในทุก ๆ ด้าน โดยมวลสารหลักอย่างโลหะศักดิ์สิทธิ์ก็ได้นำโลหะจากหลาย ๆ แห่งที่มีความเชื่อว่าเต็มไปด้วยพุทธานุภาพมาหล่อหลอม
รวมทั้งความเข้มงวดในการประกอบพิธีกรรมปลุกเสกตามสายวิชาแบบโบราณ รวมถึงใช้สถานที่ในการปลุกเสกที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงตามประวัติศาสตร์กับพระองค์ดำ ทำให้มีความเชื่อว่าจะได้รับพลังจากธรรมชาติจนทำให้พระกริ่งเกิดพุทธานุภาพสูงสุดตามเจตนารมณ์
พิธีปลุกเสก พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ 3 วาระ ที่ถูกลิขิตเอาไว้ด้วยความมั่นคง
พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ พระเครื่องที่ผ่านพิธีปลุกเสกใหญ่มากถึง 3 หน 3 วาระ โดยอาจารย์เทพ สาริกบุตร ที่ลงมือทำพิธีด้วยตนเอง ร่วมกับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้น เช่น หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ, และพระอาจารย์จากทั้งสายเหนือและสายใต้ อีกหลายรูป พิธีกรรมเริ่มตั้งแต่การนั่งปรกอธิษฐานจิตในเทวสถานตามแบบพราหมณ์ ผสมผสานกับพิธีพุทธแบบมหายาน โดยเฉพาะในช่วงฤกษ์มหามงคลที่ตรงกับวันคล้ายวันประกาศอิสรภาพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำให้พระกริ่งรุ่นนี้มีพลังด้านการคุ้มครองอย่างเต็มเปี่ยม
มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการสะสมกว่า 30 ปี เพื่อพุทธานุภาขั้นสูงสุด
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้พระกริ่งรุ่นนี้กลายเป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสมนั่นก็คือ การผสมโลหะมวลสารที่มีพุทธคุณสูง ไม่ว่าจะเป็นชนวนพระกริ่งโบราณ โลหะยอดฉัตรพระธาตุ มวลสารพระกรุเก่า และเศษทองคำเปลวจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการบรรจุผงพุทธคุณที่อาจารย์เทพสะสมมากว่า 30 ปี ผสมกับผงว่าน 108, ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงปถมัง และว่านกาหลง ว่านสาวหลง ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งเสริมด้านเมตตา มหานิยม และเสน่ห์ทางโชคลาภเป็นพิเศษ
ลักษณะเด่นขององค์พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ พุทธคุณโดดเด่น ครบทุกด้าน
พระกริ่ง นเรศวรวังจันทร์ คือพระเครื่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่สะท้อนถึงพระบารมีของสมเด็จพระนเรศวร โดยองค์พระประทับนั่งสมาธิเต็มองค์ ศิลปะโดยรวมมีลักษณะใกล้เคียงพระกริ่งสายลังกาแต่มีการปรับรูปแบบให้มีความเป็นไทยมากขึ้น พระพักตร์เปี่ยมเมตตา พระเกศาทรงเปลวเพลิง ฐานด้านล่างมีการตอกโค้ดและหมายเลขกำกับไว้ชัดเจน
พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ ได้รับการกล่าวขานว่ามีพุทธคุณที่ครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน ป้องกันภัย เสริมเมตตามหานิยมและโชคลาภเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการเจรจา การค้า หรือเป็นข้าราชการ จะได้รับอานิสงส์ในด้านอำนาจ บารมี และความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้อย่างชัดเจน
พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ พุทธคุณโดดเด่น มวลสารศักดิ์สิทธิ์ ประวัติศาสตร์แห่งชาติไทย
พระกริ่งนเรศวรวังจันทร์ เป็นพระเครื่องทรงคุณค่าที่จัดสร้างโดย อาจารย์เทพ สาริกบุตร เพื่อน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้อุทิศตนเพื่อชาติอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีแรงบันดาลใจจากสถานที่ประสูติของพระองค์ที่ “วังจันทร์” จังหวัดพิษณุโลก การจัดสร้างพระรุ่นนี้ได้รับความพิถีพิถันทั้งด้านมวลสารและพิธีกรรม